6 กันยายน พ.ศ.2560
บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”)
เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิวชั้นนำในประเทศไทย
โดยจากข้อมูลของ Frost & Sullivan
บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์สีทาอาคารรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
โดยมี
* ส่วนแบ่งการตลาดในปี 2559 ประมาณร้อยละ 48.7
* และมีส่วนแบ่งการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิว
ในเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนคิดเป็นประมาณร้อยละ 13.0
บริษัทฯ มี ตราสินค้าที่ได้รับการยอมรับโดยผู้บริโภค
และเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีและการบริการลูกค้า
รวมถึงมีการค้นคว้าและพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง
เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้
บริษัทฯ ยังมีการประหยัดต่อขนาดการผลิต (Economies of Scale)
จากการที่บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตรายใหญ่และ
มีความสามารถในการบริหารต้นทุนการผลิต
ได้อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมกับการเสนอขายผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ
ปัจจุบันบริษัทฯ มีโรงงานทั้งหมด 8 แห่ง ใน 6 ประเทศ ได้แก่
ประเทศไทย เวียดนาม สปป.ลาว มาเลเซีย เมียนมาร์และกัมพูชา
กำลังการผลิตรวมประมาณ 88.0 ล้านแกลลอนต่อปี
(ไม่รวมโรงงานใหม่ในกัมพูชาที่สร้างเสร็จเมื่อต้นปี 2560) และ
มีโรงงานผลิตที่อยู่ระหว่างก่อสร้างหรืออยู่ระหว่างการศึกษา
ความเป็นไปได้ของโครงการอีก 3 แห่ง
ในประเทศอินโดนีเซีย ประเทศกัมพูชา และประเทศเมียนมาร์
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทั่วถึงและครอบคลุม
โดยมีเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย
และประเทศอื่นๆ ในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
บริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ก้าวสู่
การเป็นผู้นำตลาดผู้ใช้สีปกป้องพื้นผิวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ด้วยการเป็นผู้นำทางผลิตภัณฑ์และบริการ
ลักษณะการประกอบธุรกิจ
ผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิวของบริษัทฯ แบ่งเป็น 2 กลุ่มดังนี้
1. ผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร
(DECORATIVE PAINT AND COATING PRODUCTS)
บริษัทฯ ผลิตและจัดจำหน่ายสีทาอาคาร โดยมีตราสินค้าที่สำคัญ
อาทิ SuperShield, SuperShield DURACLEAN A+, TOA 7 in 1,
4Seasons, Supertech และ KOBE เป็นต้น
โดยในกลุ่มผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร แบ่งสินค้าเป็น 3 ประเภทหลัก
- ผลิตภัณฑ์เกรดพรีเมียม: ผลิตโดยใช้เทคโนโลยี
ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้
และตอบสนองความต้องการของลูกค้า - ผลิตภัณฑ์เกรดปานกลางถึงเกรดอีโคโนมี่:
มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าที่ต้องการผลิตภัณฑ์คุ้มค่าในราคาประหยัด - ผลิตภัณฑ์สีทาอาคารประเภทอื่น:
แม่สีที่ใช้กับเครื่องผสมสีอัตโนมัติ (Auto Tininting Machine)
ทินเนอร์สำหรับสีทาอาคาร ฯลฯ
2. ผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิวและผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น
(NON-DECORATIVE PAINT AND COATING PRODUCTS)
บริษัทฯ ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิวและผลิตภัณฑ์ประเภทอื่น
ที่วางตลาดและขายภายใต้ตราสินค้าต่างๆ อาทิ
TOA Wood Stain, HeavyGuard, TOA Construction Chemicals, WIN
และยังมีตราสินค้าที่บริษัทฯ ไม่ได้เป็นผู้ผลิต
อาทิ RYOBI โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้แบ่งเป็น 5 ประเภท
- ผลิตภัณฑ์สีและสารเคลือบผิวสำหรับงานไม้:
ใช้สำหรับงานไม้ที่ต้องการเพิ่มความแข็งแรง
เพิ่มอายุการใช้งานให้ยาวนาน ทนทานต่อการขูดขีด
ป้องกันการผุพังของไม้อันเนื่องมาจากความชื้น - ผลิตภัณฑ์เคมีก่อสร้าง: เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับงานก่อสร้างและคอนกรีต
ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียม การปรับพื้นผิวฉาบบางให้เรียบ
วัสดุอุดรอยต่อ งานซ่อมแซมคอนกรีต
งานกันรั่วซึมคอนกรีต (การเตรียมก่อนการทาสี) - ผลิตภัณฑ์สีที่มีความทนทานสูง: ใช้กับพื้นผิวที่รับแรงบรรทุกของหนัก
ถูกกัดกร่อน หรือมีการกระทบกระเทือนสูง - ผลิตภัณฑ์สีตกแต่งพิเศษ: ใช้เพื่อทำให้พื้นผิวมีลวดลาย
หรือลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากสีทาอาคารทั่วไป - ผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์: กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานควบคู่งานช่าง
อาทิ สีสเปรย์ กาวลาเท็กซ์ กระดาษทราย และเครื่องมือช่าง เป็นต้น
ผลการดำเนินงาน
จุดแข็งทางธุรกิจ
โดยมีส่วนแบ่งการตลาดผลิตภัณฑ์สีทาอาคาร
สำหรับกลุ่มลูกค้าทั่วไปรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
คิดเป็นประมาณร้อยละ 48.7 (ข้อมูลจาก Frost & Sullivan)
มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย สามารถตอบสนองฐานลูกค้าในวงกว้าง
และความต้องการที่แตกต่างของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ เช่น
บริษัทฯ ได้จัดให้มีบริการ TOA Color World Solution Services แก่ลูกค้า
โดยใช้เครื่องผสมสีอัตโนมัติ (Auto Tinting Machine)
ซึ่งสามารถสร้างเฉดสีต่างๆ ได้มากกว่า 10,000 เฉดสี
และเปิดโอกาสให้ลูกค้าผลิตภัณฑ์สีทาอาคารสามารถสร้างสรรค์เฉดสี
ตามความต้องการแม้ว่าสีดังกล่าวจะไม่มีอยู่ในแค็ตตาล็อกสินค้าของบริษัทฯ
โดยจำนวนเครื่องผสมสีอัตโนมัติ (Auto Tinting Machine)
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 มีจำนวน 4,140 ในประเทศไทย
และ 1,791 เครื่องในประเทศอื่นในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เครื่อง
ซึ่งการให้บริการ TOA Color World Solution Services
ทำให้ผู้ค้าปลีกของบริษัทฯ
สามารถลดต้นทุนการเก็บรักษาสินค้าคงคลังของผู้ค้าปลีก
และสามารถให้บริการได้อย่างเต็มที่เพื่อตอบสนอง
ความต้องการของลูกค้าผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อให้ได้สีตามความต้องการ
มีช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทั่วถึงและ
ครอบคลุมเครือข่ายผู้ค้าปลีกระดับภูมิภาคในประเทศไทย
และช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade)
ที่มีประสิทธิภาพ โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560
มีเครือข่ายร้านค้าปลีกประมาณ 6,217 ร้าน
ครอบคลุม 77 จังหวัด และ ประมาณ 790 อำเภอในประเทศไทย
มีกระบวนการผลิตที่ทันสมัย มีการควบคุมคุณภาพที่มีมาตรฐานสูง
ตลอดจนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้จัดจำหน่ายวัตถุดิบหลักมายาวนาน
มีความสามารถในการวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่ง
และมีผลงานด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง อาทิ
เป็นผู้ผลิตสีทาอาคารรายแรกที่แนะนำสีน้ำอิมัลชั่นปลอดสารตะกั่วและปรอทในไทย
เป็นผู้ผลิตสีทาอาคารรายแรกในไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่นำเทคโนโลยีอะครีลิคจากสหรัฐอเมริกามาใช้เป็นผลสำเร็จ
เป็นผู้ผลิตสีทาอาคารรายแรกในไทยที่นำเทคโนโลยีไมโครแบน
มาใช้กับสีทาภายในที่มีคุณสมบัติป้องกันแบคทีเรีย
ผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมล่าสุดของบริษัทฯ ได้แก่ สีเขียนได้ ลบได้
(TOA Note & Clean) ซึ่งเป็นสีเคลือบผิวที่ป้องกันรอยขูดขีด
มีทีมผู้บริหารและพนักงานที่มีประสบการณ์ในธุรกิจอย่างยาวนาน
ความสำเร็จอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตของบริษัทฯ แสดงถึงความสามารถ
ของทีมผู้บริหารในการสร้างและขยายธุรกิจของบริษัทฯ
การสร้างเอกลักษณ์ของตราสินค้า
การจัดตั้งเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่กว้างขวาง
และการรักษาการยอมรับของลูกค้า
ประโยชน์จากการพัฒนาเศรษฐกิจและกิจกรรมการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย
อ่าน
นโยบายและภาพรวมการประกอบธุรกิจ
DETAILS
รายละเอียดการเสนอขาย
หุ้นสามัญของบริษัทฯ ไม่เกิน 507,600,000 หุ้น ประกอบด้วย
- หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทฯ
จำนวนไม่เกิน 254,000,000 หุ้น - หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Wybrant Holding Limited
(ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ) จำนวนไม่เกิน 253,600,000 หุ้น
รวมทั้งหมดคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 25.02 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก
และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้
เป้าหมายการระดมทุน
* เป็นเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ
* รวมทั้งเงินทุนเพื่อการพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพภายในบริษัทฯ
* เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ
SOURCE : กลต,
WWW.CHEMWINFO.COM BY KHUN PHICHAI