19 กรกฎาคม 2555
ข้อมูลการรวมกิจการ
(PPG commodity chemical business to merge with Georgia Gulf)
บริษัท PPG Industries, สหรัฐอเมริกา
กำไรสุทธิ (Net income) ในปี 2554 : 1,095 ล้านเหรียญสหรัฐ
ยอดขาย (Net Sales) ในปี 2554 : 14,885 ล้านเหรียญสหรัฐ
ธุรกิจ Commodity Chemicals Business
- คิดเป็นยอดขายประมาณ 12 % ของพีพีจีในปี 2554
- สินค้าได้แก่ คลอรีน โซดาไฟ และเคมีที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ใน
การผลิตสารเคมีต่าง ๆ, กระดาษและเยื่อกระดาษ, การบำบัดน้ำ,
การผลิตพลาสติก, เวชภัณฑ์ และ อื่น ๆ
มูลค่า 2,100 ล้านเหรียญสหรัฐ (US $ 2.1 billion)
ระยะเวลาควบรวม เสร็จสิ้นราวปลายปี 2555 ถึงต้นปี 2556
(Completion of transction around late 2012 to early 2013)
www.chemwinfo.com by Khun Phichai
วิธีการ (Merger steps)
1. แยกหรือแตกกิจการเคมีภัณฑ์คอมมอดิตี้ออกไป
(Spinoff or Split of PPG's Commodity Chemicals Business)
2. นำไปรวมกับบริษัทจอร์เจีย กัลฟ์ หรือหนึ่งในบริษัทย่อยของจอร์เจียกัลฟ์ ทันที
(Immediately merge with Georgia Gulf or
a Georgia Gulf Subsidiary)
3.บริษัทใหม่ทีเกิดจากการรวมกิจการ จะมีโครงสร้างผู้ถือหุ้น ดังนี้
(The Newly Merged Company shareholders)
- PPG Shareholders 50.5 %
- Georgia Gulf Shareholders 49.5 %
4. ประมาณการว่า บริษัทใหม่ทีเกิดจากการรวมกิจการ จะมี
รายได้ประมาณ 5 พันล้านบาทต่อปี ( US $ 5 billion) และมีตำแหน่งเป็น
- ผู้ผลิต chlor-alkali รายใหญ่อันดับ 3 ในอเมริกาเหนือ
- ผู้ผลิต Vinyl chloride monomer รายใหญ่อันดับ 2 ในอเมริกาเหนือ
ประโยชน์ต่อ PPG
- ปรับเปลี่ยนบริษัท พีพีจี กลายเป็นบริษัทมุ่งเน้นธุรกิจ
สารเคลือบเฉพาะด้าน และ สินค้าพิเศษ
(Transform PPG Industries into
more focused coatings and specialty products company)
- เพิ่มมูลค่ากิจการให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทพีพีจี
To create significant value for PPG shareholders
- สร้างประโยชน์เพิ่มให้กับธุรกิจเคมีภัณฑ์คอมมอดิตี้
ซึ่งไม่สามารถได้รับเมื่อดำเนินธุรกิจตามลำพัง
(To share syngeries that would not be available to
PPG's commodity chemicals business on its own)
www.chemwinfo.com by Khun Phichai